พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์






พาณิชย์อิเล็กทรอนิส์( electronic  commerce หรือ e-commerce )
         เป็นการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าและบริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  โดยนำเสนอสินค้าและบริการทางเว็บไซต์  ทำใหู้้ใช้บริการจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง  ซึ่งจะมีการชำระค่าสินค้าผ่านทางบัตรเครดิต  หรืออจโอนผ่านธนาคาร

เวิลด์ไวด์เว็บ







เวิลด์ไวด์เว็บ (world wide web)
              ซึ่งอาจเรียกย่อว่า เว็บ (wed) เป็นบริการเพื่อการค้นหาข้อมูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน เป็นการให้บริการข้อมูลแบบไฮเปอร์เท็กซ์ (hypertext) ซึ่งเป็นวิธิการที่จะเชื่อมโยงข้อูลจากเอกสารหนึ่งไปข้อมูลของเอกสารหนึ่ง ทำให้การค้นหาครอบคลุมข้อมูลที่ต้องการมากยิ่งขึ้นซึ่งหน่วยงานต่างๆนิยเผยเเพร่ข้อมูลข่าวสารเเละบริการของตนเองผ่านทางเว็บเป็นจำนวนมาก
           ข้อมูลที่นำเสนอในเว็บประกอบ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นข้อมูล และสวนทีเป็นตัวเชื่อมหรือลิงค์(link)
หลักการทำงานของเว็บจะมีลักษณะที่เรียกว่า ระบบลูกข่าย/แม่ข่าย(client/server) กล่าวคือ ผู้ขอใช้บริการจะใช้โปรแกรมที่เรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์ (web browser)ระบุแหล่งที่อยู่ข้อมูล (URL : Uniform Resource Locator) เว็บบราวเซอร์จะทำหน้าที่ในสถานะของเครื่องลูกข่าย(client)ร้องขอข้อมูลที่ต้องการไปยังเครื่องแม่ข่าย(server) ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของข้อมูลนั้น สำหรับเครื่องแม่ข่ายที่ให้บริการข้อมูลเว็บจะเรียกว่า เว็บเซิร์ฟเวอร์ (web server) หรือเว็บไซต์ (web site) เมื่อเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้รับคำร้องก็จะส่งข้อมูลที่ต้องการกับไปให้เว็บเบราว์เซอร์เพื่อนำไปแสดงผลให้แก่ผู้ใช้ทางจอภาพ  โดยการติดต่อระหว่างเว็บเบราว์เซอร์และเว็บเซิร์ฟเวอร์จะใช้โพรโทคอล HTTP  (HyperText  Transfer  Protocol)  และข้อมูลจะจัดเก็บในรูปแบบมาตรฐาน  HTML  (HyperText  Markup   Language)
                โปรแกรที่ทำหน้าที่เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่นิยม ได้แก่ Interner  Exlorer, Netscape Communicator, Mozilla Firefox, Opera เป็นต้น
                      โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์จะทำงานโดยดึงข้อมูลซึ่งจัดเก็บอยู่ในรูบแบบที่เรียกว่า  HTML  (HyperText   Markup   Language)  มาจากเว็บไซต์และแปลความหมายข้อมูลเพื่อนำเสนอแก่ผู้ใช้สำหรับข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของ  HTML  นั้นจะมีการแบ่งเป็นหน้าๆ  เหมือนกับหน้าในเอกสารปกติซึ่งแต่ละหน้านั้นจะเรียกว่า  เว็บเพจ  (web  page)   โดยแต่ละเว็บไซต์จะมีวิธีระบุที่อยู่ของข้อมูลไม่ซ้ำกัน  เรียกว่า URL (Uniform Resource  Locator ) เช่น http://www.itel.com/index.html  http://www.msn.com  เป็นต้น
         URL  จะประกอบด้วย 2 ส่วน  คือ
        1. โพรโทคอลหรือลักษณะของแหล่งข้อมูลที่ต้องใช้เพื่อดึงข้อมูลนั้น  เช่น  ถ้าเป็นแหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่ให้บริการ FTP  ในส่วนนี้ก็จะใช้คำว่า  ftp  หรือถ้าแหล่งข้อมูลเป็นแบบ HTML ส่วนนี้ก็จะใช้คำว่า http
        2.แหล่งที่อยู่ของข้อมูลนั้น  โดยจะระบุชื่อโดยใช้ระบบไอพีแอดเดรสหรือระบบชื่อโดเมน   ตามด้วยชื่อไดเรกทอรีและชื่อแฟ้มข้อมูลของข้อมูลนั้น

บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หรือยูสเน็ต



บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หรือยูเน็ต(usenet)
          เป็นอีกบริการหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีลักษณะเป็นกลุ่มสนทนา เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกันบนเครืออินเทอร์เน็ตซึ่งคล้ายคลึงกับการเปิดเวทีสาธารณะให้ผู้คนทั่วโลกแสดงความคิดเห็นร่วมกัน  โดยผู้ใช้สามารถสมัคร (subscride)  เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มหัวข้อที่ตนเองสนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดซึ่งเมื่อเป็นสมาชิกแล้วจะสามารถเรียกดูข้อมูลข่าวสารต่างๆที่อยู่ภายในกลุ่มหัวข้อนั้นได้ และยังสามารถแสดงความคิดเห็น สอบถาม หรือตอบปัญหาในหัวข้อนั้นๆได้ ยูสเน็ตมีการจัดแบ่งเป็นกลุ่มหัวข้อต่างๆพร้อมทั้งยังมีกลุ่มหัวข้อย่อยมากมาย เช่น กลุ่มการเมือง กลุ่มเทคนิคด้านคอมพิวเตอร์ กลุ่มดนตรี กลุ่มศิลปะ กลุ่มกีฬา เป็นต้น  กลุ่มหัวข้อในยูสเน็ตเหล่านี้ เรียกว่า newsgroup และประเด็นข้อมูลข่าวสารในแต่ล่ะกลุ่มหัวข้อจะเรียกว่า article ซึ่งหากสมาชิกไม่ประสงค์ที่จะอ่านข่าวสารในกลุ่มหัวข้อนั้นอีกก็สามารถยกเลิกการเป็นสมาชิก(unsubscribe)ของกลุ่มหัวข้อนั้นได้
             เนื่องจากการมีกลุ่มหัวข้อต่างๆจำนวนมากในยูเน็ต จึงจัดเป็นประเภทได้โดยใช้ชื่อย่อนำหน้าของกลุ่มหัวข้อหลักประเภทต่างๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
 
ชื่อย่อ
รายละเอียด
Comp.
     หัวข้อเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
       Sci.
     หัวข้อเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกเว้นคอมพิวเตอร์
Soc.
    หัวข้อเกี่ยวกับสังคมและการเมือง
      News.
    หัวข้อเกี่ยวกับยูสเน็ต
Rec.
    หัวข้อเกี่ยวกับงานอดิเรก ศิลปะ กิจกรรมบันเทิง
Misc.
    หัวข้อทั่วไปไม่สามารถจัดให้อยู่ในกลุ่มใดได้
Alt.
    หัวข้อเกี่ยวกับนิวส์กรุ๊ปทางเลือกอื่นๆ
Bionet.
    หัวข้อเกี่ยวกับชีววิทยา
Biz.
    หัวข้อเกี่ยวกับธุรกิจและโฆษณา

ตาราง แสดงชื่อย่อกลุ่มในยูเน็ต
       

        กลุ่มหัวข้อต่างๆ จะมีชื่อคล้ายกับระบบโดเมนกล่าวคือจะประด้วยส่วนประกอบหลัก คือ ชื่อกลุ่มหัวข้อ และชื่อกลุ่มหัวข้อย่อย แต่สำหรับในระบบยูเน็สนั้น ชื่อกลุ่มหัวข้อหลักจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนชื่อของกลุ่มหัวข้อย่อยรองๆ ลงไปจะอยู่ทาวขวามือตามลำดับ โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุด (.) ตัวอย่างเช่น comp.ai.neural-nets คือ กลุ่มหัวข้อหลักทางด้านคอมพิวเตอร์ (computer) มีความสนใจด้านปัญญาประดิษฐ์ (Al:Artificial lntelligence) และสนใจในเรื่องของนิวรอลเน็ตเวิร์ก (neural-netswork) หรือ sci.polymers  คือ กลุ่มหัวข้อหลักด้านวิทยาศาสตร์ (science) ที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องโพลิเมอร์ (polymers) เป็นต้น

การโอนย้ายข้อมูล





การโอนย้ายข้อมูล(file  transfer  protocol)
              เป็นการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง  ซึ่งอาจจะอยู่ใกล้หรือไกลกัน เช่น  ถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลจากเครื่องลูกข่ายไปยังเครื่องแม่ข่าย  ถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลจากเครื่องแม่ข่ายมายังเครื่องลูกข่าย  หรือถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลระหว่างเครื่องแม่ข่ายด้วยกันเอง  โดยปกติผู้ใช้สามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลได้ก็ต้องได้รับอณุญาตจากผู้ดูแลเครื่องแม่ข่ายนั้น  ซึ่งจะต้องทราบชือบัญชีและรหัสผ่านสำหรับการเข้าใช้บริการนี้   แต่ก็มีหลายหน่วยงานที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลได้โดยใช้อีเมลแอดเดรสเป็นรหัสผ่าน  หรอบางแห่งอาาจไม่ต้องระบุรหัสผ่านก็ได้
            ในการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล  เครื่องที่ผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่และมีการเรียกใช้โปรแกรมสำหรับการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลนั้น   จะเรียกว่า  เครื่องต้นทาง (local  host)  ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องลูกข่ายนั่นเอง  ส่วนเคครื่องที่ทำการติดต่อไปเพื่อถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลนั้น   เรียกว่า  เครื่องปลายทาง(remote host) โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องแม่ข่ายสำหรับให้บริการนี้  โดยผู้ใช้งานโปรแกรมที่เครื่องต้นทางจะต้องระบุชื่อเครื่องหรือหมายเลขไอพีของเครื่องปลายทางที่ต้องการใช้บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลมีการทำงาน 2 ลักษณะ  คือ
                        - get เป็นการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลจากเครื่องปลายทางมายังเครื่องต้นทาง (download)
                        - put  เป็นการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลจากเครื่องต้นทางไปยังเครื่องปลายทาง(upload)
         
            โปรแกรมสำหรับการให้บริการนี้มีอยู่จำนวนมาก  และมีอยู่บนระบบปฏิบัติการต่างๆ  แทบทุกระบบ  ไม่ว่าจะเป็นระบบไมโครซอฟต์วินโดวส์  ดอส  ยูนิกซ์  หรือแมคอินทอช  ซึ่งซอฟต์แวร์ดหล่านี้มีทั้งทีเป็นแบบแจกฟรี(freeware) และแบบให้ทดลองใช้ก่อน(shareware) ถ้าพอใจและต้องการใช้งานต่อไปหรือต้องการคุณสมบัติการทำงานที่ครบถ้วนของโปรแกรมนั้น  ก็ต้องลงทะเบียนหรือสั่งซื้อจาดผู้ขาย  สำหรับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติไมโครซอฟต์วินโดวส์ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป  เช่น  WS_FTP CuteFTP  File  Zeillar เป็นต้น  นอกจากนี้มีผู้ใช้จำนวนมากนิยมใช้บริการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลผ่านเบราว์เซอร์อีกด้วย

บริการเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ระยะไกล






บริการเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ระยะไกล(remote login/telnet)
               บริการนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปทำงานต่างๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะอยู่ใกล้หรือไกลกันก็ตาม ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามายังสถานที่เดิมเพื่อใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าว ทำให้ประหยัดเวลาเเละค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก ในการเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ระยะไกลผู้ใช้สามารถสั่งให้คอมพิวเตอร์ที่อยู่ระยะไกลทำงานต่างๆตามที่ต้องการได้โดยป้อนคำสั่งผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้งานกำลังใช้งานอยู่ ผลลัพธ์ในการทำานเหล่านั้นก้จะถูกส่งกลับไปแสดงที่จอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นด้วยเช่นกัน
                ในการใช้บริการนี้ ผู้ใช้งานจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ดูเเลเครื่องคอพิวเตอร์ที่้องการเข้าไปใช้งานก่อน ซึ่งผู้ใช้ผู้นั้นจะต้องทราบชื่อบัญชีพร้อทั้งรหัสผานสำหรับการเข้าใช้เคครื่องคอมพิวเตอร์นั้นด้วย โปรมเเกรมที่นิยมในการใช้บริการนี้ ได้แก่ โปรมแกรม telnet สำหรับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการวินโดว์มีอยู่มากมาย  เช่น โปรแกรม QvtNet  โปรแกรม HyperTerminal  เป็นต้น
                เมื่อเริ่มต้นใช้โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น  ผู้ใช้จะต้องระบุชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือหมายเลขไอพีของเครื่องที่ต้องการจะติดต่อเพื่อเข้าใช้งาน    จากนั้นโปรแกรมจะจำลองจอภาพของคอมพิวเตอร์ที่ระบุ  เพื่อให้ผู้ใช้กรอกชื่อบัญชีและรหัสผ่าน   หากสามารถกรอกได้ถูกต้องก็อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าทำงานต่างๆในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้
                หลักการทำงานของบริการนี้   จะมีลักษณะเรียกว่า  ระบบลูกข่าย/แม่ข่าย (client/server) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งที่เป็นผู้ให้บริการด้านต่างๆ  จะเรียกว่า  เครื่องผู้ให้บริการหรือเครื่องแม่ข่าย (server) และคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆที่ติดต่อกับเครื่องแม่ข่ายเพื่อทำการร้องขอใช้บริการต่างๆ  เรียกว่า เครื่องผู้ใช้บริการหรือเครื่องลูกข่าย (client)  โดยเครื่องแม่ข่ายเครื่องหนึ่งสามารถรองรับให้บริการแก่เครื่องลูกข่ายได้จำนวนหลายเครื่อง  ซึ่งในการเข้าใช้ระบบระยะไกลนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ระยะไกลที่ผู้ขอเข้าไปใช้งานนั้นจะทำหน้าี่เป็นเครื่องแม่ข่ายส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้กำลังใช้งานนั้นจะทำหน้าที่เป็นเคร่องลูกข่าย  โดยเครื่องแม่ข่ายจะสามารถรองรับการติดต่อจากเครื่องลูกข่ายได้หลากหลายประเภท  ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเครื่องชนิดเดียวกันหรือมีระบบปฏิบัติการเหมือนกัน  เพราะการทำงานในระบบนี้จะไไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์
                   

วิกิ



วิกิ(wiki) 
       เป็นรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูลที่บุคคลต่างๆ  ที่มีความรู้ในแต่ละเรื่องมาให้ข้อมูล   หรือปรับปรุงข้อมูลที่มีอยู่เดิมให้ถูกต้องและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยข้อมูลที่เผยแพร่นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไป  ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นสารานุกรมออนไลน์ที่จัดทำขึ้นในหลาายภาษา  ในลํกษณะเนื้อหาเสรี  ด้วยตัวอย่างวิกิ  เช่น  Wikiprdia  WIGIBOOKS  เป็นต้น

บล็อก





บล็อก ( blog)
      เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก ( weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"

บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์